5. การอ่านค่าเกจขนาดกระบอกสูบ
ตัวอย่างการอ่านค่าเกจขนาดกระบอกสูบ ถ้าวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางกระบอกสูบได้ 92.60 mm ให้เลือกก้านเสริมขนาด 93.00 mm
นำไปปรับตั้งกับไมโครมิเตอร์ที่มีขนาด 93.00 mm ปรับเกจหน้าปัดให้ตรงขีด 0 ซึ่งหมายถึงตั้งค่าเกจขนาดกระบอกสูบที่ 93.00 mm
จากนั้นนำไปวัดกระบอกสูบตามขั้นตอนการใช้ สังเกตเข็มที่เกจหน้าปัด ถ้าเข็มยาวที่หน้าปัดเคลื่อนที่ทวนเข็มนาฬิกาให้นำค่าที่อ่านได้
มารวมกับค่าที่ตั้งไว้ ถ้าเข็มยาวที่หน้าปัดเคลื่อนที่ตามเข็มนาฬิกาให้นำค่าที่อ่านได้มาลบกับค่าที่ตั้งไว้ (ภาพ 6.5) เข็มยาวที่หน้าปัดหมุน
ทวนเข็มนาฬิกาตรงกับขีดที่ 17 หมายถึง (17x0.01 mm = 0.17 mm) ให้นำ 0.17 mm ไปรวมกับ 93.00 mm จะได้ 93.00 mm + 0.17 mm
= 93.17 mm
ภาพ 6.5 ตัวอย่างการอ่านค่าเกจขนาดกระบอกสูบ
ตัวอย่างที่ 2 ถ้าวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางกระบอกสูบได้ 52.30 mm ให้เลือกก้านเสริมขนาด 53.00 mm นำไปปรับตั้งกับไมโครมิเตอร์ขนาด 53.00 mm หมุนกรอบหน้าปัดปรับเข็มเกจหน้าปัดให้ตรงขีด 0 ซึ่งหมายถึงตั้งค่าเกจขนาดกระบอกสูบที่ 53.00 mm จากนั้นนำไปวัดขนาดกระบอกสูบ ปรากฏว่า เข็มยาวที่หน้าปัดหมุนตามเข็มนาฬิกาตรงกับขีดที่ 10 หมายถึง (10x0.01 mm = 0.10 mm) ให้นำค่า 0.10 mm ไปลบกับ 53.00 mm จะได้ 53.00 mm - 0.10 mm = 52.90 mm